บมจ.ซันสวีท “SUN” กำไรปี 2566 แตะ 357 ล้านบาท ทะยานเพิ่มขึ้น 185% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 3,696 ล้านบาท เติบโต 25%เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีทิศทางฟื้นตัว การบริโภคและความต้องการอาหารยังเพิ่มสูงขึ้น บอร์ดเคาะจ่ายปันผลเป็น “หุ้น-เงินสด” เตรียมเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 22 เม.ย. นี้
ด้านนายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SUN เปิดแผนกลยุทธ์ปี 67 มั่นใจรายได้เติบโต 10-15% ตามเป้าเดินหน้าโครงการลงทุนเสริมประสิทธิภาพและช่วยลดแรงงาน เน้นแผนเชิงรุกการขยายตลาดต่างประเทศ และตลาดในประเทศมากขี้น เพิ่มช่องทางการตลาด-ช่องทางการกระจายสินค้าครอบคลุมทุกมิติ หนุนยอดคำสั่งซื้อ กลุ่มลูกค้าหลักๆ ของบริษัทยังเป็นตลาดเอเชียยุโรป ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และ บริษัทฯยังมีแผนรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่สูง สะท้อนให้เห็นภาพการเติบโตของธุรกิจแข็งแกร่งต่อเนื่อง กำไร Q4/66 อยู่ที่ 117 ล้านบาท โตแรง 222% ทำรายได้จากการขายงวด Q4/66 แตะ 843 ล้านบาท โต 60% จากยอดขายสินค้าข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง(Can) และข้าวโพดแช่แข็ง (Frozen) สินค้าพร้อมทาน (RTE) ภายใต้แบรนด์ KC ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากสินค้าหลัก อาทิ มันหวานเผา และ ถั่วลายเสือ อีกทั้งสินค้าใหม่ สุดปัง!! ลำไยลอยแก้ว ปัจจุบันได้วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ และรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 39 ล้านบาทใน Q4/66จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯเป็นเพราะมีอุปทานข้าวโพดหวานเพียงพอ อุปสงค์การส่งออกที่แข็งแกร่งและยอดขายในประเทศของสินค้าพร้อมทาน (RTE)
อัพกำลังการผลิต รับดีมานด์ ตลาดโลกขยายตัว
บริษัทได้ดำเนินโครงการเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (RTE) Modern Factory 2 จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่า 200,000 ชิ้นต่อวัน และมีแผนพัฒนากลุ่มสินค้าอื่นนอกเหนือจากข้าวโพด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่างประเทศ และการส่งออกในอนาคต
การขยายตลาดจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในปี 2567 ซึ่งจะเป็นปีที่มีความท้าทายในส่วนของตลาดมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยยกระดับคุณภาพสินค้าให้ดีอย่างต่อเนื่อง และเฟ้นหาช่องทางขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยในส่วนของตลาดในประเทศ บริษัทจะใช้สินค้าพร้อมทาน RTE เป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต โดยคาดว่าจะเพิ่มกําลังการผลิตใหม่ เพิ่มขึ้น 200% เป็น 300,000 ชิ้นต่อวัน คาดว่าโครงการการลงทุนจะแล้วเสร็จภายในปี 2567
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 22 ก.พ.67 บอร์ดมีมติอนุมัติการจ่ายปันผล เป็นหุ้นสามัญไม่เกิน 128,999,485 ล้านหุ้น ในอัตรา 5 หุ้นสามัญเดิมได้ 1 หุ้นปันผล หุ้นละ 0.10 บาท เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 64,499,743 ล้านบาท และจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท จำนวนเงิน 161,249,356 บาท รวมการจ่ายปันผลในครั้งนี้ทั้งในรูปแบบของหุ้นปันผล และเงินสดเท่ากับอัตราหุ้นละ 0.35 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 225,749,099 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 30 เม.ย. 67 และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 20 พ.ค. 67 ทั้งนี้การให้สิทธิดังกล่าวต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 22 เม.ย. 67
No comments:
Post a Comment