บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสดำเนินกิจการครบรอบเป็นปีที่ 13 พร้อมก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง ด้วยการให้บริการรถไฟฟ้าตามหลักมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถือเป็นวันครบรอบการก่อตั้งของบริษัทฯ ซึ่งจากประสบการณ์การดำเนินงานกว่า 13 ปี ที่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้ดำเนินกิจการในฐานะผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า โดยเริ่มจากการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารท่าอากาศยานกรุงเทพมหานคร หรือ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จนมาถึงการได้รับภารกิจสำคัญในการบริหารการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ซึ่งบริษัทฯมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพอยู่เสมอ รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงทุกการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และหลังจากรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงได้ขานรับนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ดำเนินนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ในระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ทั้ง 2 เส้นทาง ได้แก่ สายธานีรัถยา ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีรังสิต และสายนครวิถี ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีตลิ่งชัน ซึ่งเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการสาธารณะมากยิ่งขึ้นนั้น โดยตั้งแต่เริ่มนโยบายดังกล่าวมาเป็นระยะเวลากว่า 4 เดือน ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ในปัจจุบันรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีค่าเฉลี่ยผู้ใช้บริการอยู่ที่ 27,564 คน/วัน และให้สามารถทำสถิติผู้ใช้บริการสูงสุด (New High) ได้อีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 39,451 คน และหากนับตั้งแต่รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี มีปริมาณผู้ใช้บริการรวมมากกว่า 15 ล้านคน ซึ่งบริษัทฯขอให้คำมั่นว่าจะไม่หยุดพัฒนาประสิทธิภาพด้านการให้บริการ และด้านอื่นๆในทุกมิติ รวมถึงผลักดันให้องค์กรเป็นผู้นำด้านระบบขนส่งทางรางที่มีความทันสมัย สามารถเข้าถึงความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม
สำหรับแผนงานด้านการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการด้วยระบบการขนส่งรอง (Feeder)เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง บริษัทฯได้จัดแผนการรองรับ 6 เส้นทาง ได้แก่
1. สถานีตลิ่งชัน – ถนนบรมราชชนนี
2. สถานีตลิ่งชัน – บางหว้า
3. สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลาดนัดจตุจักร
4. สถานีหลักสี่ – ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
5. สถานีหลักหก – มหาวิทยาลัยรังสิต
(เริ่มให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566)
6. สถานีรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการเดินทางระบบการขนส่งรอง (Feeder) อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ทั้ง 13 สถานี ได้อย่างสะดวก และมีความปลอดภัยสูงสุด
นอกจากนั้น บริษัทได้จัดงานทำบุญเลี้ยงพระ เนื่องในโอกาสครบรอบ 13 ปี ในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 องค์พระผู้ทรงก่อตั้งกิจการรถไฟในประเทศไทย ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ผู้ทรงมีคุณูปการด้วยพระราชวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในด้านการคมนาคมขนส่งทางรางในราชอาณาจักรไทย
อีกทั้งในโอกาสพิเศษครบรอบปีที่ 13 เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณผู้ใช้บริการที่ให้การสนับสนุน และไว้วางใจเดินทางโดยรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงด้วยดีเสมอมา บริษัทฯ จึงได้จัดบูธกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยมีนักแสดงชื่อดังจากช่อง 7 อาทิ โอ๊ต รัฐธีร์ และ แอนดรูว์ โคนินทร์ มาให้บริการเสิร์ฟเครื่องดื่มจากร้านดัง จำนวนกว่า 1,300 แก้ว อาทิ กาแฟเย็น ชาเขียวเย็น ชาไทยเย็น โกโก้เย็น ให้แก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงทุกประเภท ฟรี !!! ในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ณ บริเวณ ประตู 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. - 16.30 น. หรือจนกว่าของจะหมด
ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.srtet.co.th และสามารถติดตามข่าวสารของบริษัทฯ ได้ทั้งช่องทาง Facebook , Twitter , Instagram Youtube , Tiktok ในชื่อ “RED Line SRTET”
รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง
No comments:
Post a Comment