โลตัส ตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้ง ได้รับการยกย่องเป็นองค์กรโดดเด่นที่น่าทำงานด้วยที่สุดในเอเชีย คว้ารางวัลระดับสากล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2023 โดยนิตยสาร HR Asia ของบริษัท Business Media International (BMI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนความมุ่งมั่นของโลตัสในการเป็นผู้นำองค์กรที่เป็นเลิศด้านการดูแลเพื่อนพนักงาน ผ่านกลยุทธ์ 3C คือ Capacity, Capability และ Culture เพื่อเป็นองค์กรที่ส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้เพื่อนพนักงานในทุกมิติของการทำงาน พร้อมยกระดับทักษะความสามารถเพื่อนพนักงานเพื่อโอกาสในการเติบโต และตอบโจทย์องค์กรเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่เป้าหมายที่สำเร็จร่วมกัน
นายธนกฤต ฉันทวิทิตพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานทรัพยากรบุคคล (เอเชีย) โลตัส กล่าวว่า “โลตัส เดินหน้าในการเป็นองค์กรที่โดดเด่นด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล โดยมุ่งมั่นในการดูแลเพื่อนพนักงานทั้งในสำนักงานใหญ่ สาขาและศูนย์กระจายสินค้าของโลตัสทั่วประเทศ การได้รับรางวัล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2023 สะท้อนความสำเร็จและความไว้วางใจของเพื่อนพนักงาน จากนโยบายของโลตัสด้านการดูแลเพื่อนพนักงานที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับในเวทีสากล
โดยมี กลยุทธ์ 3C ได้แก่ Capacity ผ่านการวางรากฐานโครงสร้างองค์กร สร้างแบรนด์นายจ้างของโลตัสที่เข้มแข็งจากภายในสู่ภายนอก และทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาชั้นนำ เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่และต่อยอดสู่การจ้างงานในอนาคต สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของโลตัส Capability ผ่านการพัฒนาทักษะของเพื่อนพนักงาน ทั้งการพัฒนาคนดีคนเก่งขององค์กร ทักษะความเป็นผู้นำ ยกระดับ digital skill และทักษะแห่งนวัตกรรม Culture สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมโลตัสให้เป็นสถานที่น่าทำงาน
โดยมีรูปแบบการทำงานตามแนวคิด SMART (Simple, Motivated, Agile, Responsible, Transformative) สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี เปิดรับทุกความแตกต่างหลากหลาย ทั้งอายุ เพศ ศาสนา ฯลฯ พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษส่งเสริมความรู้สึกที่ดี และคุณภาพชีวิตที่ดีให้เพื่อนพนักงาน เพราะเพื่อนพนักงานคือบุคคลสำคัญขององค์กรในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจสู่ความสำเร็จ โลตัสจึงเดินหน้าพัฒนาทักษะไปพร้อมกับการสร้างความสุขให้เพื่อนพนักงาน และสร้างความผูกพันต่อองค์กร เพื่อให้เพื่อนพนักงานสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมให้บริการและส่งต่อความรู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส ให้กับลูกค้าของเรา”
No comments:
Post a Comment