‘เมฆินทร์’ ร่วมเวทีประชันวิสัยทัศน์ ‘ช่วยค่าครองชีพประชาชน - จุดยืนที่จะไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง’ ในการเลือกตั้งครั้งนี้

‘เมฆินทร์’ ร่วมเวทีประชันวิสัยทัศน์ในเรื่อง ‘ช่วยค่าครองชีพประชาชน - จุดยืนที่จะไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง’ เชื่อมั่นศักยภาพของพรรคและตัวผู้สมัคร ส.ส. จะมีโอกาสปักธงใน จ.สุพรรณบุรี ได้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมเวที “เลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย BIG DEBATE” ณ ลานอุทยานมังกรสวรรค์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยนอกจาก นายเมฆินทร์ จะเป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ในการแสดงวิสัยทัศน์ (ดีเบต) แล้ว ก็ยังมีอีก 6 พรรคการเมืองในการเข้าร่วมในการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ด้วย

โดยนายเมฆินทร์ ได้กล่าววิสัยทัศน์ ในคำถามที่ว่า นโยบายที่เห็นผลทันที ในการช่วยค่าครองชีพ คืออะไร โดยระบุว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ในคราวนี้ จะเน้นยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ โดยการสร้างเงินนั้น ก็ได้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่า การส่งออกของประเทศไทย สามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลเป็นประวัติการณ์ของประเทศ ส่วนนโยบายที่ดูแลเกษตรกรที่เป็นรากฐานสำคัญของประเทศ ท่ามกลางสภาวะค่าครองชีพที่สูงและมีความผันผวน นั่นก็คือ โครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งทำให้เกษตรกรมีหลักประกันในการดำรงชีวิต และทำให้ไม่ต้องมีความวิตกกังวล จนกระทั่งต้องออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลมาแก้ไขเป็นครั้งเป็นคราว ที่สำคัญ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีนโยบาย ชาวนารับ 30,000 บาท ทุกครัวเรือน ซึ่งมีนโยบายจะเพิ่มค่าเก็บเกี่ยวจากไร่ละ 1,000 บาท เพิ่มเป็นไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ ซึ่งจะได้ครอบครัวละ 30,000 บาท โดยพรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะดูแลเกษตรกร และชาวนาให้ดีที่สุด เพื่อฝ่าวิกฤตค่าครองชีพที่มีอยู่ในขณะนี้

นายเมฆินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ในการที่จะไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้น ต้องถือว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีจุดยืนในเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อตั้งพรรค โดยในคำประกาศอุดมการณ์ของพรรค ระบุว่า พรรคจะดำเนินการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อประชาชน จนกระทั่งปัจจุบันนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการยอมรับจากประชาชนว่าเป็นสถาบันทางการเมือง มีหัวหน้าพรรคทั้งหมด 8 คน และหัวหน้าพรรค 4 คน ได้มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งหมดก็ไม่มีใครด่างพร้อยในเรื่องทุจริต โดยเฉพาะ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานรัฐสภา ซึ่งได้รับการยอมรับเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ นายชวน ได้เดินสายหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส. ไปทั่วประเทศ โดยเน้นย้ำให้ผู้สมัครฯ ทุกคน ขยันลงพื้นที่ และจะต้องไม่ซื้อเสียงประชาชนเด็ดขาด

หลังจากการดีเบตเสร็จสิ้นแล้ว นายเมฆินทร์ ระบุว่า การดีเบตในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทางผู้จัดฯ ที่ให้เกียรติเลือก จ.สุพรรณบุรี เป็นสถานที่จัดดีเบต เพราะถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญต่อประเทศทั้งในด้านเกษตรกรรม ศิลปวัฒนธรรม รวมทั้ง ยังได้ผลิตนักการเมืองที่ดีมีคุณภาพออกไปรับใช้ประเทศชาติอย่างมากมาย แต่ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ จ.สุพรรณบุรี เริ่มมีทิศทางที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลง เริ่มมีพรรคการเมืองอื่นๆ รวมทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ เอง ก็หวังว่า ด้วยศักยภาพของพรรค และตัวผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้ น่าจะมีโอกาสปักธงได้ ดังนั้น จึงได้มีการจัดการดีเบตขี้นมา เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินของประชาชน ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ เพราะฉะนั้น ตนก็ต้องขอขอบคุณบรรดาผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรีจากพรรคต่างๆ และแกนนำพรรคอีก 6 พรรคที่ร่วมเวทีดีเบต ที่ได้มาประชันวิสัยทัศน์ในเรื่องต่างๆ และแสดงออกถึงความเป็นน้ำใจนักกีฬาในสนามเลือกตั้ง รวมทั้ง ตนเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ตนพูดบนเวทีดีเบตในครั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนชาวสุพรรณบุรี ให้ตัดสินในเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งพรรคทั้งผู้สมัครทั้ง 5 เขต ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมนี้