คุณอริยะ ก่อเกียรติเสถียร ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการลามายา กรุ๊ปและลาโค่ กรุ๊ป เผยว่าได้ทำการรีแบรนด์โรงแรมรุ่นพ่อเดิมที่เขาใหญ่ โรแมนติก รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเป็นโรงแรมสไตล์ฟังก์ชั่นสำหรับองค์กร เน้นจัดการประชุมสัมมนา ให้เป็นชื่อ ลาโค่ เขาใหญ่
“เราอยากสร้าง Destination Space ที่เขาใหญ่ ที่ไม่อิงกับซีซั่น มีสปา มีโรงแรม มีที่พักให้เลือกที่ตอบโจทย์กลุ่ม Gen z และ y กลุ่มคู่รัก ครอบครัว ซึ่งตั้งแต่รีแบรนด์ รายได้เติบโตกว่า 300% ซึ่งปัจจุบัน ร้านลาโค่ กลายเป็นหนึ่งในเดสทิเนชั่นติดอันดับที่คู่รักมาขอแต่งงานมากที่สุด มีคู่รักเดินทางมาจากทั่วโลกเพื่อจองคิวที่ร้าน ซึ่งเรามีบริการช่างภาพถ่ายรูปแบบไพรเวทเพื่อมอบประสบการณ์ดีๆ ให้แก่ลูกค้าตลอดช่วงเวลาสำคัญ”
นอกจากปั้นแบรนด์ลาโค่จนประสบความสำเร็จแล้ว แบรนด์ร้านอาหารลามายา ยังกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายชื่อดังที่มอบประสบการณ์แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของคอนเซปท์ร้านแบบชนเผ่าที่ตกแต่งTribal Zone นำเสนอเมนูอาหารฟิวชั่นแบบ Farm to Table ตลอดจนมีโชว์แสงสีเสียงในรูปแบบ World Class Lighting Show และ Jungle Sky Bar (สาขากรุงเทพ) ทำให้หลังจากเปิดให้บริการได้เพียง 3 ปี ลามายา ก็สามารถผงาดเป็นเดสทิเนชั่นใหม่หนึ่งในบัคเก็ตลิสต์ ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ คุณอริยะ กล่าวว่า ร้านลามายามองว่าลูกค้าจะเป็นใครตั้งแต่ต้น เป็นกลุ่มคู่รัก ครอบครัว และรองรับกลุ่มต่างชาติเราถึงนำเสนอออกมาเป็นชนเผ่า นำอะไรที่เล่าได้ไม่เบื่อ ให้ลูกค้าเสพในความหลากหลายได้ รวมถึงนำความรู้จากการเป็นโปรโมเตอร์คอนเสิร์ตมาครีเอทร้าน ทำในสิ่งที่แตกต่าง มีเราทำเจ้าเดียว เราสามารถขยายธุรกิจให้รับกับสถานที่ เนื่องด้วยปกติ กลุ่มต่างชาติ อาจจะไม่เข้าเขาใหญ่ เราสามารถโปรโมทแบรนดิ้งของร้านให้เป็นจุดขายของเขาใหญ่ได้ เราเห็นโอกาสและต้องการยกระดับ เน้นย้ำความเป็นเดสทิเนชั่นของเครือลาโค่และลามายา
“สเกลในการทำร้านลามายา เทียบเท่ากับการทำร้านอาหารถึง 10ร้าน เราเปิดที่เขาใหญ่ เดือนพ.ย. 2023 และเปิดที่กรุงเทพเดือนพย. 2024ซึ่งสาขานี้ เราให้บริการตั้งแต่อาฟเตอร์นูน ที ในช่วงบ่ายไปจนถึงไลฟ์ แจ๊ซ แบนด์ exclusive club จากดีเจ Lamaya fire show , Lamaya mapping show ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของลามายาที่รู๊ฟ ท็อป บาร์”
ผู้บริหารลา มายา กรุ๊ปและลาโค่ กรุ๊ป กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า หลักในการทำธุรกิจของเรา คือ มอบประสบการณ์ที่หาไม่ได้ที่ไหน โชว์ที่กทม.กับเขาใหญ่ก็จะไม่เหมือนกัน เป็น Journey experience ที่เข้ามาแล้วคนได้ผจญภัย ด้วยธีมของร้าน vibes ที่เปรียบเทียบไม่ได้ เราทำให้ร้านลามายา รองรับในแต่ละเวลา อาหาร การบริการ โชว์ คอนเซปท์ด้านนอกร้านเล่นดีเจอยู่แต่ข้างในร้านเป็นดนตรีแจ๊ซ ถ้าร้านสาขาที่เขาใหญ่ เราจะทำ bundle ได้กับทุกร้านในเครือโรงแรมลาโค่ สามารถนำมาเป็นส่วนลดได้ 10% เรามองว่า ลามายา ต่อยอดได้หลายเรื่อง เราตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้สร้าง destination experience ของแวดวงF&B ในไทย และคาดว่าจะเปิดลามายา เพิ่มอีก1-2 สาขา ที่จ.เชียงใหม่และภูเก็ต อยากให้แบรนด์เป็น global brand กรรมการผู้จัดการลามายา กรุ๊ปและลาโค่ กรุ๊ป เผยด้วยว่า ตั้งเป้าว่า ภายใน 5 ปี เราจะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่จะช่วยขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวของไทยได้ โดยเราจะนำแบรนด์โรงแรมลาโค่ไปเปิดเป็นบูทีค
โฮเทลตามจังหวัดหัวเมืองในไทย รวมถึงร้านอาหารลาโค่ด้วย เตรียมเปิดเพิ่มอีก 4 สาขา ที่จ.เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี (พัทยา) อีกทั้งเรากำลังจะทำธีม พาร์คขนาดใหญ่ พื้นที่ 22 ไร่ที่เขาใหญ่ พร้อมกับตั้งใจที่จะยกระดับการจัดงานช่วงเทศกาลที่เขาใหญ่ อาทิ เทศกาลสงกรานต์ ในลักษณะที่รวมผู้ประกอบการในพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงเตรียมจะสร้างสรรค์โชว์ระดับโลก โดยฝีมือคนไทยขึ้นในจังหวัดแม่ 4 จังหวัดในแต่ละภาค
“เรากำลังศึกษาที่จะแตกไลน์ F&B ให้มีมาตรฐานมากขึ้น ร้านอาหารในเครือของเราที่เขาใหญ่ได้รับการจัดอันดับเรตติ้งมากที่สุดในเขาใหญ่สูงสุดทุกร้าน ในระดับ 4.8 ขึ้นไปทั้งหมด (จาก 5) ของ google review และเราเตรียมจะขยายแบรนด์ที่เขาใหญ่ มากทม. ทั้งแบรนด์ ซาฟารี มัทฉะ ร้านข้าวมันไก่จิตรลดาที่กำลังจะเปิดอีก 3-4 สาขา รวมถึงทำ cloud kitchen ด้วย ส่วนร้านอาหารไทย แบรนด์ระลึก กำลังจะเปิดในกรุงเทพ เร็วๆนี้ ในย่านบางนา ซึ่งจะมีคอมมิวนิติตี้ สเปซของเครือเราเอง”


















No comments:
Post a Comment