เปิดฉากการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 28 รัฐมนตรีท่องเที่ยวสรวงศ์ แสดงวิสัยทัศน์ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวอาเซียนให้เป็น Single Destination - Siam Daily

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Monday, January 20, 2025

เปิดฉากการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 28 รัฐมนตรีท่องเที่ยวสรวงศ์ แสดงวิสัยทัศน์ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวอาเซียนให้เป็น Single Destination

วันที่ 19 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 28 

ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Unity in Motion: Shaping ASEAN’s Tourism Tomorrow” ณ โรงแรมฮิลตัน เมืองยะโฮร์บาห์รู สหพันธรัฐมาเลเซีย โดยมีนายเตียง คิง สิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม สหพันธรัฐมาเลเซีย เป็นประธานการประชุม และมีนางคริสตินา การ์เซีย ฟราสโก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ เป็นรองประธานการประชุม

ในการประชุมฯ ดังกล่าว รัฐมนตรีท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติสมาชิกอาเซียนได้แสดงวิสัยทัศน์และจุดยืนร่วมกันที่จะผลักดันให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลก ผ่านการดำเนินโครงการ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ปี พ.ศ. 2559 – 2568 โดยปัจจุบันอาเซียนได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วกว่า ร้อยละ 70 ของโครงการทั้งหมด

ในโอกาสนี้ รมว.กก. ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของชาติสมาชิกอาเซียน และคู่ภาคีภายนอก ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียนผ่านวิสัยทัศน์ "IGNITE Thailand" ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นประเด็นหลักที่ไทยได้ให้ความสำคัญ (Priority) ด้วยการออกนโยบายการอำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามพรมแดน การส่งเสริมมาตราการการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองและเมืองน่าเที่ยว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง และการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญกับการนำเสนอการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับจุดหมายปลายทางในอาเซียน

นอกจากนี้ รมว.กก. ได้นำเสนอประเด็นสำคัญหลักที่ไทยและชาติสมาชิกอาเซียนควรพิจารณาให้ความสำคัญ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอาเซียนในฐานะจุดหมายปลายทางเดียวกัน ด้วยการส่งเสริมการดำเนินงานด้านนโยบายเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกัน การส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาดด้านการท่องเที่ยว  การส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยว การพัฒนามาตรฐานด้านการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในอาเซียน การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติระหว่างกัน และการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว โดย รมว.กก. ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม “ASAEN – India Forum : Journey of Opportunities” ในช่วงปี พ.ศ. 2568 และขอเชิญชวนประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วม Forum ดังกล่าว

ทั้งนี้ รมว.กก. ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย โดยในปี พ.ศ. 2567 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 35.54 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.67 ล้านล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (6,702,554 คน) มาเลเซีย (4,929,455 คน) อินเดีย (2,116,250 คน) เกาหลีใต้ (1,859,738 คน) และรัสเซีย (1,725,901 คน) ซึ่งล้วนเป็นผลสืบเนื่องจากความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูการท่องเที่ยว ด้วยการออกนโยบาย Ease of Traveling ที่รัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการ เช่น มาตรการ Visa-Free สำหรับ 93 ประเทศ การยกเว้นการยื่นแบบ ตม. 6 และการพัฒนาระบบขอวีซ่าออนไลน์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม โดย รมว.กก. กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายการท่องเที่ยวปี พ.ศ. 2568 ตั้งเป้าให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยจำนวน 40 ล้านคน คาดหมายรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท

ท้ายนี้ รมว.กก. ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ในปี พ.ศ. 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” และขอรับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกในการร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน





No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad